linlinking verb คืออะไรกันหนอ มีอะไรบ้างที่ควรเรียนรู้และจดจำ แล้วมันใช้ต่างกันหรือเหมือนกันกับ Verb to be คำถามเหล่านี้มีมาจากน้องๆที่ยังไม่เข้าใจหลักการใช้ linking verb นึกว่ามันสามารถใช้แทน Verb to be ได้เลย แต่จริงๆแล้วมันเป็นอย่างไร มาดูกัน
linking verbs คืออะไร
- Linking แปลว่า เชื่อม
- Verb แปลว่า กริยา
Linking Verb คือ กริยาเชื่อม ทำหน้าที่เชื่อมประธานกับคุณศัพท์ เพื่อบอกสภาวะ ไม่ใช่บอกการกระทำ
linking verb มีอะไรบ้าง
Linking verb พื้นฐานเบื้องต้นที่ทุกคนควรจดจำไว้ให้แม่น ได้แก่
- be (is am are/ wase were/ been) เป็น คือ
- appear ดูเหมือน / ปรากฎ
- become เริ่ม, กลาย
- come เป็น, กลายเป็น/ มา
- feel รู้สึก/ คลำ
- get เริ่ม / ได้รับ
- go เกิด/ ไป
- grow เริ่ม / โต, ปลูก
- look ดูเหมือน / มอง
- remain ยังคง/ อยู่
- seem ดูเหมือน
- smell ส่งกลิ่น / ดม
- sound ดูเหมือน / ส่งเสียง
- stay ยังคง / พัก
- taste มีรส/ ชิม
- turn กลาย / หมุน
คำแปลตัวหน้า หมายถึง ถ้าทำหน้าที่เป็น Linking verb
คำแปลตัวหลัง หมายถึง ถ้าทำหน้าที่เป็นกริยาหลัก หรือกริยาแท้
หลักการใช้ linking verb
Linking verb ก็คือ คำกริยาที่ทำหน้าที่เชื่อมประธานของประโยค กับ คำคุณศัพท์ เพื่อบ่งบอกสภาวะของประธานในประโยคนั้นๆ ซึ่งคำที่เรารู้จักกันดีก็คือ Verb to be
- She is happy. หล่อนมีความสุข
- You are smart. คุณฉลาด
- He is lazy. เขาขี้เกียจ
Linking Verb หรือกริยาแท้กันแน่…
Linking Verb ตามตัวอย่างด้านบนตั้งแต่ be จนถึง turn นั้น ส่วนใหญ่ทำหน้าที่ได้ทั้ง กริยาแท้ และกริยาเชื่อม
มีอยู่สาม 3 คำ คือ be , become, seem ที่เป็นได้เฉพาะกริยาเชื่อม เพราะบอกได้แค่สภาวะ แต่ไม่สามารถบอกการกระทำได้
ให้จำหลักการง่ายๆว่า ถ้าทำหน้าที่เป็นกริยาแท้จะแสดงการกระทำ ถ้าทำหน้าที่เป็นกริยาเชื่อมจะแสดงสภาวะ
ตัวอย่างคำกริยาที่เป็นได้ทั้งกริยาแท้ และกริยาเชื่อม เช่น
- I come home every Sunday. ฉันมาบ้านทุกวันอาทิตย์
เป็นกริยาแท้ เพราะ come บอกการกระทำ - My dreams come true. ฝันของฉันกลายเป็นจริง
เป็นกริยาเชื่อม เพราะ come บอกสภาวะ
- I’m feeling the pillow. ฉันกำลังคลำหมอน
เป็นกริยาแท้ เพราะ feel บอกการกระทำ - I’m feeling cold. ฉันรู้สึกหนาว
เป็นกริยาเชื่อม เพราะ feel บอกสภาวะ
- We grow flowers. พวกเราปลูกต้นไม้
เป็นกริยาแท้ เพราะ grow บอกการกระทำ - The flowers grow old. ดอกไม้เริ่มแก่
เป็นกริยาเชื่อม เพราะ grow บอกสภาวะ
- They smell flowers. พวกเขาดมดอกไม้
เป็นกริยาแท้ เพราะ smell บอกการกระทำ - The flowers smell good. ดอกไม้ส่งกลิ่นหอม
เป็นกริยาเชื่อม เพราะ smell บอกสภาวะ
Linking Verb กับ Verb to be
ความแตกต่างของ Linking verb กับ Verb to be ก็คือว่า
- Linking verb = ชั่วคราว
- Verb to be = ถาวร
ถ้าเราใช้ Verb to be เมื่อไหร่ จะเป็นการบอกนิสัยถาวรของคนๆนั้น แต่ถ้าใช้ linking verb จะบอกว่าพฤติกรรมนั้นๆเกิดชั่วคราว เช่น
- She is happy. หล่อนมีความสุข
นี่คือตัวตนของเธอ เธอมีความสุขทุกเวลา - She looks happy today. หล่อนดูเหมือนจะมีความสุขวันนี้
เดือนก่อน สัปดาห์ก่อนหน้ามุ่ย สังสัยได้รับข่าวดีอะไรสักอย่าง
- You are smart. คุณฉลาด
คูณเก่งอยู่แล้วแต่เกิด ที่หนึ่งตลอด ทำอะไรก็คล่องไปหมด - You seem smart. คุณดูฉลาด
คุณดูฉลาดขึ้นนะ ประชุมทุกทีมีแต่เสนอแนะอะไรไม่เป็นท่า วันนี้หนาทำไมเป็นคนละคน กินยาผิดซองหรือเปล่า
- He is lazy. เขาขี้เกียจ
ไม่เคยทำอะไรเลย งานหนักไม่เอา เบาไม่สู้ - He sounds lazy. เขาดูเหมือนจะขี้เกียจ
ปกติขยันขันแข็ง แต่ทำไมตอนนี้เหมือนจะเริ่มอู้งานแล้ว เกิดอะไรขึ้น
อันนี้เป็นการยกตัวอย่างให้เห็นความแตกต่างกันนะครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกล่าวถึงพฤติกรรมหรือนิสัย ถ้าใช้ verb to be นั่นคือนิสัยของคนนั้นๆ
แต่มีบางบริบท บางคำที่ใช้แทนกันได้เลย เช่น
- The soup is good.
- The soup tastes good.
ซุปรสชาติดี
- She is cold.
- She feels cold.
หล่อนหนาว ใช้แทนกันได้ ถ้าบอกความรู้สึก แต่
- She is cold. She never talks to anyone.
หล่อนเย็นชา หล่อนไม่เคยพูดกับใครเลย
การใช้ Linking verb คร่าวๆ ก็ประมาณนี้แหละครับ มันก็คือกริยาเชื่อม ทำหน้าที่คล้ายกับ Verb to be นั่นเอง