Plural Nouns คืออะไร ต่างจาก Singular Nouns อย่างไร มาดูกันให้หายสงสัย

Plural Nouns คือคำนามพหูพจน์ ซึ่งต่างจากคำนามเอกพจน์ หรือ Singular Nouns ตรงที่ต้องเติม s ต่อท้ายคำ เพื่อบ่งบอกว่ามันมีหลายคน หลายตัว หลายอัน และหลายแห่งนะ

Plural Nouns กับ Singular Nouns

• plural แปลว่า พหูพจน์ มาจากภาษาบาลี พหุ + พจน์ แปลว่าจำนวนหลาย
• singular แปลว่า เอกพจน์ มาจากภาษาบาลี เอก + พจน์ แปลว่าจำนวนหนึ่งเดียว
• noun แปลว่า คำนาม

สรุปได้ว่า

• plural คือ นามพหูพจน์ หมายถึง  คำนามที่มีสองจำนวนขึ้นไป
• singular คือ นามเอกพจน์ หมายถึง  คำนามที่มีเพียงจำนวนเดียว

จำคำนิยามนี้ให้ดีให้แม่นเลยนะครับ เพราะว่า คำนามเอกพจน์ และคำนามพหูพจน์ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เราต้องเรียนรู้ให้เข้าใจ

เพราะหลักการใช้ “Singular nouns และ Plural nouns กับคำกริยา” จะแบ่งแยกออกค่อนข้างชัดเจน ให้เรียนรู้เพิ่มเติมเอาจากเรื่อง subject verb agreement นะครับ

⇒ Subject Verb Agreement คืออะไร

Plural noun คืออะไร

plural noun คือ คำนามที่หมายถึง หลายคน หลายตัว หลายอัน หลายแห่ง เช่น

• หลายคน  เช่น 
  boys เด็กชายหนึ่งคน
  girls เด็กหญิงหนึ่งคน
  teachers ครูหนึ่งคน
  nurses พยาบาลหนึ่งคน

• ตัวเดียว  เช่น 
  cats แมวหนึ่งตัว
  dogs สุนัขหนึ่งตัว
  pigs หมูหนึ่งตัว
  cows วัวหนึ่งตัว

• อันเดียว  เช่น 
  pens ปากกาหลายด้าม
  cars รถยนต์หลายคัน
  fans พัดลมหลายเครื่อง
  TVs ทีวีหลายเครื่อง

• สถานที่เดียว  เช่น 
  banks ธนาคารหลายแห่ง
  markets ตลาดหลายแห่ง
  malls ห้างสรรพสินค้าหลายแห่ง
  temples วัดหลายแห่ง

⇒ การเติม s ท้ายคำนาม ⇒ เปลี่ยนเอกพจน์ เป็นพหูพจน์

Singular noun คืออะไร

singular noun คือ คำนามที่หมายถึง คนเดียว ตัวเดียว อันเดียว แห่งเดียว เช่น

• คนเดียว  เช่น 
  a boy เด็กชายหนึ่งคน
  a girl เด็กหญิงหนึ่งคน
  a teacher ครูหนึ่งคน
  a nurse พยาบาลหนึ่งคน

• ตัวเดียว  เช่น 
  a cat แมวหนึ่งตัว
  a dog สุนัขหนึ่งตัว
  a pig หมูหนึ่งตัว
  a cow วัวหนึ่งตัว

• อันเดียว  เช่น 
  a pen ปากกาหนึ่งด้าม
  a car รถยนต์หนึ่งคัน
  a fan พัดลมหนึ่งเครื่อง
  a TV ทีวีหนึ่งเครื่อง

• สถานที่เดียว  เช่น 
  a bank ธนาคารหนึ่งแห่ง
  a market ตลาดหนึ่งแห่ง
  a mall ห้างสรรพสินค้าหนึ่งแห่ง
  a temple วัดหนึ่งแห่ง

สังเกตุดูว่า ปกติแล้ว singular noun “ไม่เติม s ต่อท้าย และมี article a an นำหน้า”

⇒ หลักการใช้ article a an