การใช้ must และ mustn’t ใช้ยังไง คำอธิบายพร้อมตัวอย่างประโยค แจ่มๆ

การใช้ must เราจะรู้กันว่าใช้ในการบอกความจำเป็น เพราะคำว่า must แปลว่า ต้อง แต่ว่าเขานำไปใช้กันยังไงละ ไปดูพร้อมๆกันเลย ณ บัดนาว

การใช้ must

การใช้ must และ mustn’t

จดจำคำแปลต่อไปนี้ให้แม่นเลยนะครับ โดยเฉพาะคำว่า musn’t

  • must อ่านว่า มัสทึ แปลว่า ต้อง
  • mustn’t อ่านว่า มัสเซินทึ แปลว่า ต้องไม่

mustn’t แปลว่า ต้องไม่ ถ้าแปลว่า ไม่ต้อง มันจะไปคนละเรืองเลย

การใช้ must

ใช้แสดงถึงความจำเป็น หรือสำคัญ ในมุมมองของคนพูด

  • It’s dark now. We must stay here tonight.
    มันมืดแล้วตอนนี้ พวกเราต้องพักที่นีคืนนี้
    (ฉันคิดว่ามันอันตราย ถ้าเดินทาง ดังนั้นจึงจำเป็นต้องพักก่อน
  • You look pale. You must see a doctor.
    คุณดูซีดเซียว คุณต้องพบหมอนะ
    (ฉันดูแล้วคุณคงไม่ไหว จำเป็นต้องพบหมอ ไม่งั้นคงไม่ดีขึ้นแน่นอน)
  • It’s going to rain. I must go home now.
    ฝนกำลังจะตก ฉันต้องกลับบ้านตอนนี้เลย
    (ฉันว่าถ้าไม่กลับตอนนี้ ฝนคงจะไล่ทัน)
  • You must eat more vegetables and do some exercises.
    เธอต้องกินผักให้มากขึ้นและออกกำลังกาย
    (ร่างกายของคุณดูแย่ ถ้าคุณไม่เชื่อผม สุขภาพคุณจะแย่ขึ้นเรื่อยๆ เชื่อหมอ)
  • I must finish my homework first and then I will watch TV.
    ฉันต้องทำการบ้านให้เสร็จก่อน แล้วฉันจะไปดูทีวี
    (ฉันคิดว่าถ้าไม่ทำให้เสร็จก่อน เดี๋ยวดูเพลิน การบ้านจะไม่ได้ทำ
  • Fast and Furious 9 were partly filmed in Thailand. I must watch it.
    หนัง เร็วแรงทะลุนรก 9 บางส่วนถ่ายทำในไทย ฉันต้องดูให้ได้เลย
    (เป้นหนังที่ดีมาก สนุกตื่นเต้น ฉันไม่เคยพลาดสักภาค ยิ่งถ่ายในไทยด้วยแล้วเนี่ย..)

การใช้ must ขึ้นอยู่กับมุมมองของคนพูดนะครับ สถานการณ์เดียวกัน แต่อาจจะไม่สำคัญสำหรับบางคนก็ได้ เช่น

  • A: It’s going to rain. I must go home now.
    ฝนกำลังจะตก ฉันต้องกลับบ้านตอนนี้เลย
    (ฉันไม่มีร่ม เสื้อก็ใหม่ๆ นาฬิกากันไม่กันน้ำ ถ้าโดยฝนแย่แน่ๆ สรุปว่า โดนฝนไม่ได้เด็ดขาด)
  • B: It’s going to rain. I should go home now.
    ฝนกำลังจะตก ฉันควรจะกลับบ้านตอนนี้เลย
    (ร่มก็มี เสื้อกันฝนก็เอามา นาฬิกาก็กันน้ำได้ สรุปว่า จะโดนฝนหรือไม่โดนไม่ใช่ปัญหา)

ใช้บังคับในรูปแบบที่เป็นทางการ

บังคับอย่างเป็นทางการ เช่นป้าย หรือการประกาศต่างๆ

  • No smoking and you must wear your seat belt
    ห้ามสูบบุหรี่ และคุณต้องคาดเข็มขัดนิรภัย
  • Riders under 18 must wear helmets when riding
    ผู้ขับขี่อายุต่ำกว่า 18 ปี ต้องสวมใส่หมวกกันน็อคขณะขับขี่

การใช้ mustn’t

ใช้ในการห้ามในรูปแบบที่เป็นทางการ หรือห้ามในเรื่องที่สำคัญๆ

  • We’re leaving early tomorrow. We must not go to bed late.
    พวกเราออกเดินทางแต่เช้าพรุ่งนี้ พวกเราต้องไม่เข้านอนดึกนะ
    (ตื่นสายไปไม่ทันเครื่อง ทริปนี้พังหมดพอดี)
  • All passengers must not cross the line.
    ผู้โดยสารต้องไม่ล้ำเส้นเข้าไป
    (ล้ำเข้าไปมีสิทธิ์โดนรถไฟเฉี่ยวเอาได้
  • Children must not play on this site.
    เด็กๆต้องไม่ (ห้าม) เล่นบริเวณนี้

ในภาษาพูดปกติจะใช้คำง่ายๆแทนนะครับ เช่น

  • All passengers must not cross the line. (ป้ายห้าม)
  • Don’t cross the line. (ภาษาพูด)
    อย่าล้ำเส้นนะ
  • Children must not play on this site. (ป้ายห้าม)
  • You can’t play here. (ภาษาพูด)
    พวกเธอเล่นแถวนี้ไม่ได้นะ

ขอ 5 ดาวให้บทเรียนด้วยครับผม...

คลิกดาวดวงที่ขวามือสุดเลยครับครับ...

Average rating 4.5 / 5. Vote count: 197

ยังไม่มีใครให้ดาว คุณคือคนแรก....

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *