เมือง ภาษาอังกฤษเขาก็ใช้กันทั้ง town และ city นั่นแหละครับ ในหลายประเทศจะเอาจำนวนประชากรเป็นที่ตั้ง ว่าประชากรประมาณไหนจึงจะเรียกว่า city
เมือง ภาษาอังกฤษ
ก่อนอื่นมาดูคำนิยามตาม dictionary ของ เคมบริดจ์ ก่อนนะครับ ว่ามันมีความหมายว่าอย่างไร
- village: a group of houses and other buildings that is smaller than a town, usually in the countryside:
หมู่บ้าน : กลุ่มของบ้านเรือนและอาคารอื่นๆ ที่เล็กกว่า town ปกติจะตั้งอยู่ในชนบท
- town: a place where people live and work, containing many houses, shops, places of work, places of entertainment, etc., and usually larger than a village but smaller than a city:
เมือง : สถานที่ที่ผู้คนอาศัยอยู่ และทำงาน มีบ้านหลายหลัง ร้านค้าหลายร้าน มีสำนักงาน แหล่งบันเทิง อื่นๆ และปกติจะใหญ่กว่า village แต่เล็กกว่า city
- city: a place where many people live, with many houses, stores, businesses, etc., and which is bigger than a town:
เมือง : สถานที่ที่มีผู้คนมากมายอาศัยอยู่ มีบ้านหลายหลัง ร้านค้าหลายแห่ง ย่านธุรกิจหลายแห่ง อื่นๆ และใหญ่กว่า town
village คือ กลุ่มของบ้านเรือนที่ตั้งอยู่ตามชนบท เรียกว่า หมู่บ้าน หรือ ตำบลก็อยู่ในข่ายนี้เหมือนกัน
town คือ กลุ่มของบ้านเรือนเหมือนกัน แต่มีร้านค้า มีปั๊มน้ำมัน มีสำนักงานต่างๆ ถ้าเทียบกับไทยเราก็คือ อำเภอ หรือหมู่บ้านไหน ตำบลไหนที่ติดกับถนนหลักๆ มีปั๊มน้ำมัน มีร้านค้ามากมาย ก็สามารถเรียก town ได้เหมือนกัน
ถ้า town ไม่ใหญ่มากนัก เขาก็เรียกว่า small town ถ้าใหญ่มาหน่อยเรียกว่า big town
city คือ เมืองขนาดใหญ่ เทียบกับไทยเราก็คือ จังหวัด นั่นเอง
ถ้าเป็นต่างประเทศ เขาเรียกย่านนั้นว่า town หรือ city ก็คงต้องถามคนในพื้นที่เอานะครับ ว่าเขาเรียกย่านนั้นกันว่าอย่างไร