หลักการใช้ Future Perfect Continuous Tense มีหลักการดังต่อไปนี้

หลักการใช้  Future Perfect Continuous Tense (Tense อนาคตสมบูรณ์กำลังทำ)  เป็น Tense ที่เราเรียนรู้เอาไว้ แต่ไม่ค่อยได้ใช้ สังเกตุดูแค่ชื่อก็งงๆกันแล้วใช่ไหมครับ

การใช้  Future Perfect Continuous Tense

• Future  ฟิวเชอะ= อนาคต
  
• Perfect เพอเฟ็คท= สมบูรณ์
• Continuous  คอนทินิวอัส= ต่อเนื่อง
  

ที่บอกว่าเป็น “อนาคตสมบูรณ์กำลังทำ”  หมายถึง ในช่วงเวลาหนึ่งของอนาคต จะมีเหตการณ์หนึ่งได้ทำมาแล้วระยะหนึ่ง และขณะนั้นก็กำลังทำอยู่ (เช่น ฉันคงจะกำลังทำอะไรบางอย่างเป็นเวลา…(นาที, ชั่วโมง, วัน, ปี…)  เมื่อถึงเวลานั้น เป็นต้น)

โครงสร้าง

I, You, He, She, It, We, They

will

have

been

eating

การย่อรูป

การย่อรูป ใช้หลักเดียวกันกับ Future Simple Tense ครับ  ให้คง have been ไว้ และ have ไม่ต้องย่อเป็น ‘ve นะครับ

หลักการใช้

ใช้กล่าวถึงเหตุการณ์ในอนาคต ที่จะได้ทำไปแล้วเป็นระยะเวลาหนึ่ง และกำลังทำอยู่  ไม่ต้องงงนะครับ เดี๋ยวดูตัวอย่างกันเลย

1.แบบมีเหตุการณ์เดียว  ส่วนมากจะระบุเวลาในอนาคตด้วย เช่น

• I will have been eating breakfast for 30 minutes at 8 o’clock tomorrow.
  ฉันจะได้กำลังกินข้าวเช้าเป็นเวลา 30 นาทีแล้ว ณ เวลา 8 นาฬิกา วันพรุ่งนี้
  หมายความว่า พรุ่งนี้ฉันจะเริ่มกินข้าวเช้าเวลา 7.30 นาฬิกา พอถึงเวลา 8 นาฬิกา ฉันก็กินข้าวมาแล้ว 30 นาที ถ้าคุณมา 8 โมงละก็ กับข้าวก็จะไม่เหลือแล้ว ฉะนั้นถ้าจะมาต้องมาก่อน 7 โมง

• At 10 o’clock tomorrow, we will have been working on farm for two hours.
  เวลา 10 นาฬิกาพรุ่งนี้ พวกเราจะได้กำลังทำงานในฟาร์ม เป็นเวลา 2 ชั่วโมงแล้ว
  หมายความว่า พรุ่งนี้ตอนเช้าเวล 10 นาฬิกา พวกเราก็จะได้ทำงานมาแล้ว 2 ชั่วโมง ถ้าคุณอยากมา 10 โมงก็ไม่ต้องแล้ว เพราะคงไม่มีอะไรให้ทำแล้ว

2.แบบมีสองเหตุการณ์(เหตุการณ์ที่ได้ดำเนินมาแล้วระยะหนึ่งใช้  Future Perfect Continuous  อีกเหตุการณ์หนึ่งใช้ Present Simple)

• You will have been waiting for two  hours when the plane arrives.
  คุณจะได้กำลังรอ เป็นเวลาสองชั่วโมง เมื่อเครื่องบินมาถึง
  สมมติว่า พรุ่งนี้เวลา 10 โมง เครื่องบินจะมาถึง และ คุณต้องไปรับเพื่อนที่สนามบิน แล้วมีคนพูดอย่างนี้ หมายความว่าคุณจะต้องไปถึงสนามบินประมาณ 8 นาฬิกา (ช้ากว่านี้เขาไม่ให้เข้า) แล้วคุณต้องไปนั่งรอจนถึง 10 โมงนั่นแหละ

• They will have been sleeping for three hours by the time their parents get home.
  พวกเขาจะได้กำลังนอนหลับเป็นเวลา 3 ชั่วโมง ตอนที่พ่อแม่ของพวกเขามาถึง
  หมายความว่า เมื่อพ่อแม่ของพวกเขามาถึงบ้าน พวกเขาก็ได้เข้านอน และหลับไปแล้ว 3 ชั่วโมง

Time Line เส้นเวลา

• They will have been sleeping for three hours by the time their parents get home.
  พวกเขาจะได้กำลังนอนหลับเป็นเวลา 3 ชั่วโมง ตอนที่พ่อแม่ของพวกเขามาถึง

ลูกศรีสีขาวคือ พวกเขาจะได้นอนหลับมาระยหนึ่งแล้ว ในที่นี้คือ 3 ชั่วโมง ลูกศรสีแดงคือ เวลาที่พ่อแม่ของพวกเขามาถึง เส้นสีเหลืองหมายความว่าพวกเขาน่าจะนอนหลับต่อไป

ใช้บอกระยะของการกระทำว่า กว่าจะถึงเวลานั้นในอนาคต ฉันได้ทำอะไรนานเท่าไหร่แล้ว

เหตุการณ์ นี้จะเริ่มจากอดีต มาจนถึงปัจจุบัน และทะลุไปถึงอนาคตเลยครับ นับตั้งแต่ Tomorrow,  next week, next moth, next year คล้ายกับ Future Perfect ที่ผ่านมาแล้ว

• I will have been studying English for ten months next month.
  ฉันจะได้กำลังเรียนภาษาอังกฤษเป็นเวลาสิบเดือน (นับถึง) เดือนหน้า

แล้วอะไรคือความแตกต่างระหว่าง

I will have  studied English for ten months next month.
I will have been studying English for ten months next month.

ประโยคแรกเพียงแค่บอกข้อมูลธรรมดาไม่มีอะไรแฝงเป็นนัยๆ

ประโยคที่สองหมายถึง เดือนหน้าฉันก็ครบสิบเดือนเหมือนกัน แต่เน้นถึงการกระทำที่ต่อเนื่อง และมีแนวโน้มว่าฉันจะเรียนต่ออีกนะ

คำว่าเน้นการกระทำที่ต่อเนื่องหมายถึงอะไร หมายถึงทำสิ่งนั้นๆอย่างต่อเนื่อง ถ้าเปรียบกับนักเรียนที่ไปเรียนคือ คนที่ไปโรงเรียนชนิดที่ว่าไม่เคยขาดเรียนเลย  ไปตลอด ไปทุกวัน

ถ้าถามว่าอันไหนถูก ตอบว่าถูกทั้งคู่นั่นแหละ เลือกใช้เอาอย่างใดอย่างหนึ่งแล้วกัน

• I will have been studying English for ten months next month.
  ฉันจะได้กำลังเรียนภาษาอังกฤษเป็นเวลาสิบเดือน (นับถึง) เดือนหน้า

เส้นสีขาวคือ ช่วงเวลาที่ได้เรียนมาแล้วตั้งแต่อดีต จนมาถึงปัจจุบัน และนับถึงเดือนหน้า (ลูกศรสีแดง) ส่วนเส้นสีเหลืองหมายถึง มีแนวโน้มว่าจะเรียนต่อไปอีกแน่นอน

ความแตกต่างระหว่าง  Future Continuous กับ Future Perfect Continuous.

ลองมาดูประโยคนี้ก่อน

• I will be eating rice when you arrive.
  ฉันจะกำลังกินข้าวอยู่ เมื่อคุณมาถึง

• I will have been eating   rice for 30 minuts when you arrive.
  ฉันคงจะได้กำลังกินข้าวแล้วเป็นเวลา 30 นาที เมื่อคุณมาถึง

อะไรคือความแตกต่าง   ความแตกต่างคือ มีการบอกระยะเวลาที่ทำ กับไม่มีเวลากำกับ แค่นั้นเอง การที่จะลือกใช้อันไหนก็ขึ้นอยู่กับผู้พูดว่าจะสืออะไร

ประโยคปฏิเสธ

• I won’t have been waiting for you for 3 hours when you arrive.
  ฉันจะไม่ได้กำลังรอคอยคุณ เป็นเวลา 3 ชั่วโมง เมื่อคุณมาถึงนะ (5 ชั่วโมงต่างหาก)

ประโยคคำถาม

• Will you have been waiting for me for two hours when I arrive?
  คุณจะไม่กำลังรอฉันเป็นเวลา 2 ชั่วโมง เมื่อฉันมาถึงใช่ไหม
  Yes, I will. / No, I won’t. ใช่ / ไม่ใช่
• How long will you have been waiting for me when I arrive?
  it’s 3 hours.
  คุณจะได้กำลังรอคอยฉันเป็นเวลากี่ชั่วโมง เมื่่อฉันมาถึง
  มันเป็นเวลา 3 ชั่วโมง

Tense นี้เป็นอะไรที่พิลึกกึกกือมากเลยสำหรับพวกเรา เพราะว่าจะมีไหมใครสักคนที่จะพูดแบบนี้