present participle คืออะไร และนำไปใช้อย่างไรได้บ้าง : บทเรียนเรื่อง Participle มีอยู่ด้วยกัน 2 ชนิดนะครับ คือ past participle และ present participle ในวันนี้เราจะมาเรียนรู้ในหัวข้อหลังกันนะครับ ว่ามันคืออะไร เอาไปใช้อย่างไร
Present Participle คืออะไร
- Present อ่านว่า เพร๊เซินทึ แปลว่า ปัจจุบัน
- Participle หมายถึงรูปกริยาที่เติม ing, ed หรือผันรูปโดยไม่เหลือเค้าเดิม
คำอธิบายด้านบน เป็นการอธิบายตามรูปคำศัพท์นะครับ…..งั้นเอาใหม่นะครับ Present Participle คือ กริยาที่เติม ing (V+ ing) จบข่าว… ก็แค่เนี้ย แต่การเติม ing มันก็มีหลักการอยู่นะครับ ไม่ใช่เติมได้เติมเอาตามใจฉัน
หลักการใช้ Present Participle
หลักการใช้โดยสรุปนำไปใช้ดังนี้
- ใช้เป็นคำคุณศัพท์
- ใช้ตามหลังคำกริยาบางตัว
- ใช้ใน Continuous Tense
- ใช้ใน อนุประโยคเพื่อขยายนาม (Adjective Clause)
1. Past Participle ใช้เป็นคุณศัพท์
คำคุณศัพท์คือคำที่ขยายคำนาม หรือบอกลักษณะของคำนาม เช่น big, small, tall, short, green etc.
- A big bird นกตัวใหญ่
- A small ant มดตัวเล็ก
- A bird is big. ชายรูปร่างใหญ่
- An ant is small. มดตัวเล็ก
การนำ present participle หรือ กริยาที่เติม ing มาเป็นคำคุณศัพท์ มักจะแปลว่า “ที่กำลัง…, น่า…., ที่น่า…”
Present Participle นำหน้าคำนาม
- The running dog is mine.
หมาที่กำลังวิ่ง คือของฉัน - The sleeping boy is my cousin.
เด็กชายที่กำลังนอนหลับ คือลูกพี่ลูกน้องของฉัน - The dancing man is my ex.
ชายที่กำลังเต้นอยู่คือแฟนเก่าฉัน - The confusing mice don’t know where to go.
หนูที่กำลังสับสน ไม่รู้ว่าจะไปไหนดี - Her child is still inside the burning house.
ลูกของหล่อนยังคงอยู่ในบ้านที่กำลังไฟไหม้ - This boring book makes me feel bad.
หนังสื่อที่น่าเบื่อเล่มนี้ทำให้ฉันรู้สึกแย่ - He is an amaizing boy.
เขาเป็นเด็กชายที่น่าทึ่ง - It is an interesting article.
มันเป็นบทความที่น่าสนใจ
Present Participle ตามหลัง Verb to be
- This book is boring.
หนังสื่อเล่มนี้น่าเบื่อ - It is intereting.
มันน่าสนใจ - This film is confusing.
หนังเรื่องนี้สับสน - This story is exiting.
เรื่องนี้น่าตื่นเต้น - The dog is terrifying.
หมาตัวนี้น่ากลัว
2. ใช้ตามหลังคำกริยา Verb of perception (กริยาแสดงการรับรู้) และกริยาบางตัว เช่น come, go, spend, waste, find etc
- I can hear the bird singing in the tree.
ฉันได้ยินนกกำลังร้องเพลงอยู่บนต้นไม้ - I saw Sam walking in the market yesterday.
ฉันเห็นแซมกำลังเดินในตลาดเมื่อวานนี้ - I can feel an ant climbing up my leg.
ฉันรู้สึกได้ว่ามีมดกำลังไต่ขึ้นขาของฉัน - The little girl came running to her dad.
เด็กหญิงตัวเล็กวิ่งตรงมายังพ่อของเธอ - He goes swimming every week.
เขาไปว่ายน้ำทุกอาทิตย์ - I spent one hour doing my homework.
ฉันใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงเพื่อทำการบ้าน - Don’t waste your time playing games all day.
อย่าเสียเวลาของคุณเพื่อเล่นเกมทั้งวัน - Sam found his dog lying in his bed.
แซมเจอหมาของเขานอนอยู่บนเตียง
3. ใช้ใน Continuous Tense ทั้ง 6 ตัว
ถ้าเรียนเรื่อง Tense มาแล้ว มันก็คืออันเดียวกันนั่นแหละครับ
Present Continuous Tense
- She is running. หล่อนกำลังวิ่ง
Present Perfect Continuous Tense
- She has been running for two hours.
หล่อนวิ่งมาแล้ว 2 ชั่วโมง
Past Continuous Tense
- She was running when it started to rain.
หล่อนกำลังวิ่งอยู่ ตอนที่ฝนเริ่มตก
Present Perfect Continuous Tense
- She had been running for two hours when it started to rain.
หล่อนวิ่งมาแล้ว 2 ชั่วโมง ตอนที่ฝนเริ่มตก
Future Continuous Tense
- She will be running at 8 o’clock tomorrow.
หล่อนคงจะกำลังวิ่งอยู่ ตอน 8 โมง พรุ่งนี้
Future Perfect Continuous Tense
- She will be running for 1 hour when we get there.
หล่อนคงจะวิ่งได้ 1 ชั่วโมงแล้ว ตอนที่เราไปถึงที่นั่น
4. ใช้ใน อนุประโยคเพื่อขยายนาม (Adjective Clause)
ตัวนี้มันก็เป็นตัวขยายคำนามนั่นแหละ ซึ่งเป็นประโยคขยายคำนามที่ถูกย่อให้สั้นลง
- The boy standing next to the tall man is my brother.
เด็กชายที่กำลังยื่นอยู่ถัดจากผู้ชายตัวสูงๆคือน้องชายของฉัน คำว่า standing เป็นการย่อให้สั้น ประโยคเต็มๆคือ The boy who is standing (เด็กชายผู้ที่กำลังยืนอยู่) - The dog playing with Jo belongs to Mr. Brown.
หมาที่กำลังเล่นอยู่กับโจของคุณบราวน์ คำว่า playing เป็นการย่อให้สั้น ประโยคเต็มๆคือ
The dog that is playing (หมาที่กำลังเล่นอยู่) - The young man dancing with Jenny is very smart.
ชายหนุ่มที่กำลังเต้นอยู่กับเจนนี่หล่อมาก คำว่า dancing เป็นการย่อให้สั้น ประโยคเต็มๆคือ
The young man who is dancing (ชายหนุ่มผู้ที่กำลังเต้นอยู่)
หลักการใช้ present participle กล่าวโดยสรุป หรือหลักการที่สำคัญๆ ก็มีเพียงเท่านี้แล อาจจะมีหลายสำนักกล่าวแยกย่อยออกไปจากนี้ ก็ค่อยเติมเต็มเอาแล้วกัน แต่โดยหลักๆก็มีประมาณนี้แหละครับผม