เรซูเม่ คืออะไร? (Resume) ตัวอย่างการเขียนเรซูเม่ 3 แบบฟอร์มที่ใช้นิยมใช้กันทั่วไป

เรซูเม่ หรือ Resume คือเอกสารที่เป็นข้อมูลคร่าวๆ ของบุคคล ในด้านการศึกษา ค้นคว้าวิจัย ฝึกอบรมต่างๆ ประสบการณ์ในการทำงานหรือฝึกงาน ความสามารถหรือทักษะต่างๆที่ได้สั่งสมมา เป็นบทสรุปสั้นๆ เพื่อประกอบในการสมัครงานนั่นเอง

เรซูเม่คือ

เรซูเม่ (Resume) คืออะไร

resume  จริงๆมาจากภาษาฝรั่งเศส และมันต้องเขียนว่า résumé มีเครื่องหมายขีดด้านบนที่เรียกว่า acute accent กำกับด้วยแต่เนื่องจากว่าภาษาอังกฤษไม่มีเครื่องหมายดังกล่าว จึงเขียนแค่ resume เฉยเฉย

คำนิยามของ resume

  • Your résumé is a brief account of your personal details, your education, and the jobs you have had. You are often asked to send a résumé when you are applying for a job. – คอลลินดิกชันนารี-
  • เรซูเม่ของคุณ คือ รายงานสรุปรายละเอียดข้อมูลส่วนตัวของคุณ การศึกษาของคุณ และงานที่คุณได้ทำมา บ่อยครั้งที่คุณถูกร้องขอให้ส่งเรซูเม่เมื่อคุณสมัครงาน – คอลลินดิกชันนารี-
  • Résumé a short written description of your education, qualifications, previous jobs, and sometimes also your personal interests, that you send to an employer when you are trying to get a job. – cambridgedictionary-
  • เรซูเม๋ คือ คำเขียนบรรยายในด้านการศึกษของคุณ คุณสมบัติต่างๆ งานก่อนๆ และบางทีก็เป็นความสนใจส่วนตัวของคุณ ที่คุณส่งไปให้ผู้ว่าจ้างเมื่อคุณหางานทำ – เคมบริดจ์ดิกชันนารี –

จากคำนิยามด้านบน resume คือ  เอกสารสรุป ประสบการณ์ และคุณสมบัติ สำหรับงานที่คุณกำลังมองหา ซึ่งประกอบไปด้วยการศึกษา ประสบการณ์ในการทำงาน รวมทั้งประสบการณ์อื่นๆที่เกี่ยวข้อง

เรซูเม่ (Resume) มี 3 แบบ

Resume ตามแบบฟอร์มมีอยู่ด้วยกัน 3 รูปแบบดังนี้

  1. Chronological  Resume  – แบบเน้นประสบการณ์ในการทำงาน
  2. Functional  Resume – แบบเน้นทักษะ และความสามารถ
  3. Combination Resume– แบบผสมผสาน

Chronological  Resume

การเขียน Chronological  Resume จะเน้นลำดับเหตุการณ์เป็นสำคัญ อะไรมาก่อนมาหลัง ซึ่งการเขียนเรซูเม่จะเอาเหตุการณ์ล่าสุดมาก่อน เขาเรียกว่า Reverse-Chronological เช่นล่าสุดจบจากไหนมา หรือทำงานบริษัทไหนมา ซึ่งเรซูเม่แบบนี้จะเป็นที่นิยมกันมาก และเป็นที่รู้จักกันดีกว่ารูปแบบอื่น เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่จะเปลี่ยนงานไปในตำแหน่งที่สูงกว่า

Chronological Resume จะเน้นไปที่ประสบการณ์ในการทำงาน และตำแหน่งของงานในอดีตที่ผ่านมา ในขณะที่ functional resume หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งคือ skills-based resume จะเน้นไปที่ทักษะ ความสามารถต่างๆที่มีในตัวบุคคล ซี่งจะได้กล่าวในหัวข้อถัดไป

ตัวอย่าง Chronological Resume ของ Troy University

chronological resume

Functional  Resume

Functional Resume คือ เรซูเม่ที่เน้นทักษะ และความสามารถในตัวบุคคลเป็นสำคัญ คุณมีความสามารถอะไร เก่งด้านไหนก็สาธยายมาได้เลย  ส่วนประวัติการทำงานก็มีเหมือนกัน ว่าเคยทำงานที่ไหนมาบ้าง ตำแหน่งอะไร ไม่ได้กล่าวรายละเอียดแต่อย่างใด

ถ้าไม่ได้ทำงานอย่างต่อเนื่อง อาจจะขาดตอนขาดช่วงไปบ้าง จะไม่เหมาะที่จะเขียนแบบ Chronological  Resume ดังนั้นเรซูเม่แบบนี้ จะเหมาะกับคนที่มีความรู้ความสามารถสูง แต่อาจขาดช่วงในการทำงานไปบ้าง หรือถ้างานไหนที่เขาไม่เน้นประสบการณ์ แต่เน้นความสามารถเป็นหลัก ก็ให้ใช้เรซูเม่แบบนี้

Functional Resume จะเน้นทักษะเป็นหลัก ซึ่งตรงกันข้ามกับ Chronological  Resume ที่เน้นระยะเวลาและประสบการณ์ในการทำงานเป็นสำคัญ

ตัวอย่าง Functional Resume ของ Troy University

funtional resume

Combination Resume

combination resume จะเป็นลูกผสมระหว่าง Functional Resume และ Chronological  Resume เป็นเรซูเม่สำหรับคนที่มีประสบการณ์ในการทำงานสูง และมีความรู้ความสามารถสูงเช่นกัน ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ทำงานมาอย่างโชกโชน มีความรู้ความสามารถในขั้นเป็นผู้นำได้

ซึ่งแน่นอนว่าถ้ามีประสบการณ์ในการทำงานที่ยาวนาน และความรู้ความสามารถที่เพียบพร้อม การจะได้งานในตำแหน่งที่ต้องการก็คงอยู่ไม่ไกล เพราะผู้รับสมัครงานเขาก็ย่อมต้องการคนที่มีความรู้คู่ประสบการณ์อยู่แล้ว

ตัวอย่าง Combination Resume ของ Eastern Illinois University

Combination Resume

ขอ 5 ดาวให้บทเรียนด้วยครับผม...

คลิกดาวดวงที่ขวามือสุดเลยครับครับ...

Average rating 4.7 / 5. Vote count: 67

ยังไม่มีใครให้ดาว คุณคือคนแรก....

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *